

สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาแนะนำ MALTA ประเทศเล็กๆ
ทางตอนใต้ของอิตาลีกัน เมืองที่ผมไปเรียน ไปใช้ชีวิตมาปีกว่าๆ
แต่หลายคนอาจจะไม่ค่อยรู้จัก เอาจริงๆมันก็มีความคูลของมันอยู่!
เริ่มต้นจากที่ผมสนใจไปเรียนต่อ ก็เลยมองหาหลายๆที่
จนมาเจอคอร์สเรียนMBA ที่มอลตาจากรุ่นพี่ที่มหาลัยแนะนำมา
พูดถึงมอลตานี่ ตอนแรกอยู่ส่วนไหนของโลกหรอออ
อ๋อ แถวๆอิตาลี แล้วยังไงครับ! หาข้อมูลเรื่อยๆคือ
หลักสูตรนี้มันมาจากUK แยกCampus ออกมาที่มอลตาอีกที

เอาวะ เป็นช่วงเบื่อจากงานพอดี เลยลองไปที่นี่ดูแล้วกัน
หาจาก Google เห็นรูปทะเลสวยด้วยนะ (แต่ไม่ใช่ประเด็น)
แถมเป็นเมืองในยุโรปก็น่าจะโอเคแหละ หลังจากนั้นก็ได้เตรียมเอกสาร
ยื่นวีซ่าไปเป็นนักเรียนที่มอลตากันเลย! การยื่นวีซ่าหลังไมค์ได้นะครับ
ข้อมูลค่อนข้างมีรายละเอียดเยอะ มาถึงเรื่องเรียนยังไม่ค่อยมีข้อมูลที่นี่มากนัก
เลยอยากมาแบ่งปันกันครับ

MALTA Here i come
มอลตาเป็นประเทศเล็กๆในยุโรปตอนใต้ มีเมืองหลวงชื่อ Valletta
คนท้องถิ่นใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้ เมโทร รถรางไม่มีนะเน้อ
ใช้รถบัส เรือเฟอรี่ Local สุดๆไว้ใช้เดินทาง


จากไทยยังไม่มีบินตรงถึงมอลตานะครับ จริงๆแล้วบินไปประเทศไหนในยุโรป
แล้วค่อยบินไปมอลตา ก็สะดวกนะครับ ตั๋วระหว่างประเทศในยุโรปถูกมาก แนะนำเลย
ครั้งแรกที่ผมไป ใช้บริการของสายการบินไทยบินไปลง Switzerland
แล้วต่อ Swiss air มาลงมอลตา ก็สะดวกดีไม่มีปัญหาอะไรครับ
โดยระยะเวลาจากสนามบินมอลตาถึงที่พักก็ประมาณ 20 -30 นาทีโดยรถยนต์
หอพักผมก็เหมือนหอธรรมดาทั่วไป เป็นห้องขนาดไม่ใหญ่มาก
จะแบ่งเป็นโซน โซนละ5ห้อง แต่ห้องPrivate มีห้องน้ำในตัวนะครับ
มีส่วนกลางเป็นห้องครัวที่ไว้ใช้ร่วมกัน ค่าห้องตกประมาณเดือนละ 3-400 ยูโร
หรือ (ประมาณ 12,000-15,000 บาท) ค่าครองชีพไม่แรงมากครับ

MBA ที่ มอลตา
เอาจริงๆตอนแรก ผมก็ไม่ค่อยรู้จักมอลตาสักเท่าไหร่ แต่ว่าถูกดึงดูด
ด้วยราคาค่าเรียน MBA ไม่ถึง3 แสน ปีเดียวจบ คือราคาลดไปเยอะมาก
อีกเหตุผลที่เลือกไปเพราะผมวางแผนไว้ว่าจะไปเรียนต่ออีกที่อังกฤษปีถัดไป
เลยไม่อยากใช้จ่ายในปีนี้มากถือว่าไปฝึกภาษาด้วย ผมก็เลยตัดสินใจ
ไปก็ไปวะ! ซึ่งพอมาที่นี่ ก็ถูกกว่าที่อื่นมากจริงๆ
ซึ่งเอาจริงๆแล้วตอนแรกที่ไปเพราะหลักสูตรมันสามารถเลือกเรียนได้ 2 ประเทศ
ทั้งอังกฤษและมอลตา แต่ตอนหลังเปลี่ยนหลักสูตรเป็นต้องเรียนที่มอลตาอย่างเดียว
คอร์สเรียนก็โอเคนะ ผมเลือกเรียนคอร์สMBA หลักสูตร 1 ปี
ที่ London School of Commerce (LSC), Valletta, Malta เป็น College
ที่แยกออกมาจากที่ลอนดอน
ส่วนที่บอกว่าหลักสูตรคล้ายลอนดอน เพราะว่าคะแนนทุกวิชาที่เรียน
และสอบจะส่งเข้าลอนดอน ให้อาจารย์ทางอังกฤษเป็นคนตรวจ แล้วเอาคะแนน
มาเฉลี่ยกันกับอาจารย์ที่สอนโทโดยตรง ส่วนอาจารย์ที่สอนภาษาก็จะเป็น
อาจารย์จากอังกฤษ อันนี้เค้าว่ามาอย่างนั้นนะครับ

ส่วนตอนนี้ใครที่สนใจเรียนควบ2ประเทศ ก็เสียใจด้วยนะครับ เพราะว่าเรียนได้
แค่ที่มอลตา แต่ถ้าอยากไปอังกฤษ ก็รอไปรับปริญญาเอาก็ได้ครับ เพราะอาจารย์ที่สอน
และมหาลัยก็ของอังกฤษเพียวๆ5555 ไม่มีอะไรปนเลย อีกอย่างคือเรียนที่นี่
ได้ใบปริญญาจาก Anglia Ruskin University, UKด้วยนะครับ เพราะมหาวิทยาลัย
เค้าโคกัน (อะไรก็เน้นอังกฤษมาก่อนครับ)
คลาสเรียนก็เจอเพื่อนหลากหลายชาติมาก

ส่วน LSC, Malta จะอยู่ในเมืองหลวง Vallettaเลย เพราะฉะนั้นการเดินทาง
ค่อนข้างไปไหนมาไหนสะดวก (รถบัส) แต่ตั๋วรถบัสสำหรับนักเรียน
ลดเยอะมากครับ ราคาประมาณ 30 centต่อเที่ยว หรือใครใช้แบบเหมา
3 เดือนก็ประมาณ 40 ยูโรครับ
ไปช่วงแรกๆ เราสามารถเรียน Pre-sessionalเพื่อปรับภาษาได้ก่อน
ตามระดับภาษาของเรา ที่นั่นเค้าจะสอนภาษาอังกฤษ รวมถึงฝึกฝน
การเขียนแบบ Academic เพื่อให้พร้อมต่อการเรียนโท จากนั้นก็ถึงมาสอบ
วัดระดับอีกที เพื่อให้ผ่านเกณฑ์เรียน MBA ซึ่งเป็นหลักสูตรเดียว
กับที่ LSC, London ใครไม่ผ่าน ก็เรียนโทไม่ได้ครับบบบ
การเรียนก็จะแบ่งเป็น 3 เทอม โดย 2 เทอมแรกก็จะมีวิชาให้ได้เลือกลงเรียน
เรียนสัปดาห์ละ 3 – 4 วัน รวมถึงมี Assignment ให้ทำตลอด ช่วงเรียนก็ตั้งใจนิดนึง
นึกถึงช่วงเที่ยวเข้าไว้ เพื่อนต่างชาติหลายคนที่มาเรียนโท ตั้งใจกันมาก
เมทผมนี่คอยปลุกให้ไปเรียนตลอด จะฟิตไปไหน
แล้วเทอมสุดท้ายจะทำเป็นตัวรายงานจบ หรือ Dissertation นั่นเอง ที่ตอนนี้
ผมก็กำลังนั่งปั่นอยู่เลย เทอมสุดท้ายจะไม่มีเรียน มีแต่ตัวจบนี้ตัวเดียว
ก็สามารถทำที่ไหนก็ได้ แล้วส่งงานผ่านทางเว็บของมหาวิทยาลัยเอา
โดยรวมคร่าวๆการเรียนก็ประมาณนี้ครับ


ชีวิตในมอลตา
ชีวิตที่มอลตา เน้นเฮฮากับเพื่อนเป็นหลัก ไปถึงเมทก็พาเข้าผับตั้งแต่วันแรก
ลากยาวยัน6โมงเช้า แต่ก็มันส์มากกก เจอเพื่อนจากหลากหลายประเทศมาก
เพราะจริงๆในValletta ก็เป็นเมืองไม่ใหญ่มาก เลยไม่ได้มีกิจกรรมอะไรทำมากมาย
แต่ใครเที่ยวดึกๆระวังโดนโกงนะ เคยทะเลาะกับแทกซี่ก็เคยมาแล้ว
ค่าแทกซี่โคตรแพง ถ้าคิดจะกลับเช้า เดินไม่ก็รอรถบัสเลยดีกว่า5555
เอาจริงๆตอนผมไปอยู่ที่นู้น มีคนไทยที่เป็นนักเรียนที่ LSC ผมเจอแค่ 2-3 คน
ทำให้ส่วนใหญ่ผมค่อนข้างจะอยู่กับเพื่อนต่างชาติมากกว่า ก็เน้นดื่ม เฮฮา ปาร์ตี้
เที่ยวตามประสาไป แต่มันส์ดีครับ อยู่ไปเรื่อยๆมันก็สนุกดี การที่ไม่ค่อยเจอเพื่อนคนไทยมาก
ก็เป็นข้อดีเหมือนกันครับ มันบังคับให้ทำเราได้ใช้ภาษาอังกฤษตลอดเวลา


แต่ว่าก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เจอคนไทยเลยนะ ที่นั่นก็มีร้านอาหารไทย ของไทยขาย
อยู่เหมือนกันครับ ก็ได้เจอพี่ๆคนไทยช่วยเหลืออยู่เหมือนกัน ตอนที่หอพักหมดสัญญา
ถือว่าโชคดีมากครับที่พี่เค้าช่วยเหลือ เกือบไม่รอด
แถมยังได้งาน Part-time ทำด้วย ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี ใครมาก็ลองทำดูนะครับ
อย่างผมทำแค่2-3วันต่ออาทิตย์ แบ่งเวลาไว้ไปเที่ยวด้วย (เอาจริงๆขี้เกียจ)
แต่มีเพื่อนตุรกีคนนึงขยันมาก ทำทุกวันจนมีค่าใช้จ่ายไว้ใช้รายเดือนกันเลยก็มี (มันจะขยันไปไหนนนน)
ส่วนมอลตานั้นใกล้อิตาลีก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดครับ คนที่นี่ค่อนข้างจะเฟรนลี่
เมืองก็ปลอดภัยดี แทบไม่ค่อยเจอ Homeless เลยด้วยซ้ำ แต่อย่างว่า ใกล้อิตาลี
ร้านอาหารอิตาเลี่ยนเยอะมากๆ เลี่ยนกันเป็นแถบๆ อีกอย่างคือกินเบียร์กันครับ
ถูกกว่าน้ำเปล่าาา555555
ไปเรียนหรือ(ไปเที่ยว)
กิจกรรมที่ทำในมอลตา ก็เหมือนเมืองตากอากาศทั่วไป คือมีทะเลสวย
แต่จริงๆลงเล่นลำบาก เพราะหนาว และลมแรงมากๆ เป็นแนวหินยาวมาเลย
แต่ถ้าสวยจริงๆต้องนั่งเรือไป Blue lagoon ครับ โคตรสวยยย น้ำสีฟ้าใสมากกก

ส่วนใหญ่ในเมืองก็เดินเล่นชิวๆ ถ่ายรูป เมืองหลวงอย่าง Valletta
ก็จะลักษณะเมืองเก่า ตึกโทนสีครีมๆ ไล่เป็นขั้นบันได จริงๆเมืองนี้
ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วยนะครับ ส่วนผมอยู่จนชินแล้ว ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร
อีกอย่างคือถ้าหลายคนติดตา ซีรี่ย์Game of thrones ก็น่าจะตื่นเต้นกับมอลตา
ได้ไม่ยาก ในมอลตาก็ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำอยู่หลายฉากเลยครับ

ส่วนมากนอกจากอยู่มอลตา ถ้ามีเวลาสัก2-3วัน ผมก็แพลนหาที่เที่ยวแล้วครับ
เพราะมาเรียนมอลตาได้วีซ่าเชงเก้น ก็เที่ยวในยุโรปได้สบายๆ
ไม่ต้องยุ่งยากทำเอกสารเพิ่มเติม แล้วค่าตั๋วไม่แพงมากด้วยครับ ยิ่งถ้าช่วงโปร
10-20 ยูโร (ไม่กี่ร้อยบาท) ก็เจอมาแล้วครับ ค่อนข้างถูกมากเลยทีเดียว
ก็แล้วแต่จะไปเลยครับ ออสเตรีย สวิส อิตาลี วนไปให้ครบทั่วยุโรปเลย
หรือใครชิวๆก็นั่งเรือเฟอรรี่ข้ามไปอิตาลีได้ครับ อยู่ไม่ไกลมาก
อิตาลีก็มา


ปรากก็ไป


ออสเตรียและหลายๆที่ครับ




จากที่ผมไปอยู่มา แต่ละเมืองมันก็มีข้อดีข้อเสียของมันในแต่ละที่แหละครับ
อย่างมอลตา เอาจริงๆแล้วหลายคนก็ไม่ค่อยรู้จัก หรือรู้จักกันน้อยครับ
บางคนนี่นึกยังไงก็นึกไม่ออก สมัยนี้ไปเรียนก็เน้นที่อังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลีย
ขนาดผมไปก็ลุ้นๆอยู่เหมือนกันในตอนแรก ด้านวัฒนธรรม ความเป็นอยู่
มันมีความแปลกใหม่ แม้แต่หลักสูตรเรียนมอลตายังต้องขายเน้นความเป็นอังกฤษ
ผสมเข้าไปด้วย เพราะน้อยคนจะสนใจที่นี่ แต่พอไปจริงๆแล้วมันก็ได้ทั้งภาษา
และเรียนป.โทในราคาถูกกว่าอังกฤษจริงๆ แถมมีงบไว้ไปเที่ยว ยังไงก็ลองลิส
เอาไว้เป็นตัวเลือกใหม่ๆดูครับ

น้องบูม นักเรียนของเรา เรียน MBA ที่ LSC, Malta
ใครอยากไปเรียนมอลตาแบบน้องบูม ไลน์หาเจ๊ @beyondboarders
ขอบคุณข้อมูลจากคุณ Games LoudSi – pantip.com