Office 095 456 9145
watcharapol@jmeoverseas.com
Line ID @JMEOVERSEAS
Facebook
YouTube
Instagram
  • HOME
  • OUR TEAM
  • STUDY IN UK
    • Boarding School
    • Language School
    • Summer Camp
    • University
  • PROMOTIONS
  • VISA SERVICE
  • BLOG
    • LIFE IN UK
    • UK TIPS
    • ENGLISH LANGUAGE
  • CONTACT US

ไปเรียนสวิสฯ เสียเงิน 1 ล้านได้อะไรบ้าง!

มกราคม 28, 2018ไม่มีความเห็นAdmin BB

น้องไผ่มาแชร์ประการณ์เรียน Culinary Arts ที่ BHMS สวิสเซอร์แลนด์ เป็นยังไงมาดูกันเลย

ฟังไม่ผิดหรอกครับ ใช่ครับ ไปเรียนสวิสครับผม! ผมว่าการศึกษาคือการลงทุน
และสามารถนำกลับเอามาต่อยอดได้อีก นี่ถือว่าคุ้มในระดับนึงเลย! ไปอยู่มาเกือบปีแล้ว
ได้อะไรบ้าง ผมจะมาแชร์ประสบการณ์ว่าได้อะไรบ้าง!

แต่การเรียนครั้งนี้ผมไม่ได้มาเอาปริญญานะ มาเรียนเอา Diploma และประสบการณ์ทำงาน
ในต่างแดนจริงๆ เรียนรู้การใช้ชีวิต เจอเพื่อนใหม่ๆ การอยู่ร่วมกับคนอื่น แล้วที่สำคัญมรที่นี่
ต้องบริหารเวลา เงิน อะไรอีกต่างๆ ที่ต้องทำระหว่างการมาเรียนที่นี่ด้วยตัวเอง

ไม่พูดพร่ำทำเพลงละ เรามาเริ่มพูดถึงการที่เรามาเรียนที่นี่ก่อนเลย ผมเลือกมาเรียน
ที่ประเทศ สวิสเซอร์แลนด์ อ่าวทำไมต้องประเทศ สวิสฯ ล่ะ ก็แหงล่ะ ผมเลือกเรียน

ด้านสายวิชาชีพนี่หว่า เรียนทำอาหาร Post Graduate in Culinary Arts ใช่เรียนทำอาหาร
ทำไมไม่เรียนที่ไทยล่ะ ผมว่ามันไม่เหมือนกันนะ เราไปลองดูกันดีกว่าว่า มันแตกต่างจาก
ที่เราเรียนที่ไทยยังไงบ้าง?

ก่อนไปสวิสฯ เราต้องทำไรบ้างล่ะ อย่างแรกนี่สำคัญสุดๆ คือ เลือกคอร์สเรียน โรงเรียน
แล้วจ่ายเงิน ทำวีซ่า ซื้อตั๋วเครื่องบิน แล้วก็เตรียมตัวบินได้เลย

สำหรับวีซ่าไม่ต้องกังวลนะ ทางโรงเรียนหรือมหาลัยที่โน่น เค้าจะส่งจดหมายมารับรองเรา
เราแค่เตรียมเอกสารสำคัญต่างๆ เช่น พาสปอร์ต บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน บัญชีธนาคาร
และจดหมายเชิญจากโรงเรียน

จากนั้นเราก็ไปยื่นกันที่ สถานทูตสวิสที่ถนนวิทยุกันเลย 1-2 เดือน เราก็จะได้วีซ่ามาแล้ว
แต่วีซ่าจะให้เรามาแค่ 2-3 เดือนเอง ส่วนหลังจากนั้นเราจะต้องมาทำ B-Permit
หรือคล้ายกับบัตรประชาชนบ้านเรานั่นหล่ะ ทีนี้ล่ะ เราก็จะอยู่ที่สวิสได้อย่างสบายๆเลย

ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นประเทศเล็กๆ ไม่มีทางออกทะเล แต่มีพรมแดนติดหลายประเทศ
ไม่ว่าจะเป็น เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี ออสเตรีย และลิกเทนสไตน์ เฮ้ยอะไรจะติดกัน
หลายประเทศนักวะประเทศเล็กๆ

สำหรับการเดินทางจากไทยไป มีสายการบินตรงและพักเครื่องให้เลือกเยอะเวอร์ คราวนี้อยู่ที่
งบประมาณของเราแล้วล่ะ ว่าจะเลือกแบบไหน คราวนี้ผมเลือกบินกับสายการบินไทย

เพราะบินตรงและเวลาไฟล์ทนี่สวยเลยทีเดียว บินตรง 11 ชั่วโมง เราก็มาถึงสวิสเป็นที่เรียบร้อย
สำหรับเมืองที่ผมไปเรียนครั้งนี้อยู่ที่ ลูเซิร์น เป็นเมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งของสวิสฯ ห่างจากซูริค
และสนามบินหลักเพียงแค่ 1 ชั่วโมง

คอร์สที่ผมมาเรียนนี้เป็นคอร์สที่เรียน 6 เดือน และทำงานอีก 6 เดือน (ทำงานนี่ได้เงินด้วยนะ
เยอะด้วยพอตัวล่ะครับ ถ้าเรารู้จักใช้มันนะครับ) ผมเดินทางมาถึง ลูเซิร์น เรียบร้อยแล้วครับ

เรา Check-in เข้าที่พักของเรากันเลยครับ ที่พักนี้เราพักของโรงเรียนเลยครับ เป็นอพาร์ทเม้น
หลากหลายแบบ แล้วแต่ทางโรงเรียนจัดให้ ของผมได้อพาร์ทเม้นแบบ 3 คนครับ มีรูมเมทเป็น
คนยูเครน อายุ 18 ปี และโรมาเนียอายุ 20 ปี ครับ เรียกได้ว่าผมนี่แก่สุดในห้องละล่ะครับ

ป้ายต้อนรับก็มา

ห้องพักของเราตลอด 6 เดือน

ตึกหลักของโรงเรียน City Campus รวมทั้งเป็นอพาร์ทเม้นที่พักของเราด้วย

คราวนี้เรามาดูถึงสถาพการเรียนกันครับ ผมเรียน Post Graduate in Culinary Arts,
BHMS Business and Hotel Management School, Luzern, Switzerland

บรรยากาศวันปฐมนิเทศ

หลักสูตรนี้ก็ต้องมีทั้งทฤษฎีและปฏิบัติครับ อย่างเราก็ชอบปฏิบัติ แต่แน่นอนว่าถ้าเรา
ไม่รู้ทฎษฎีมันก็ปฏิบัติไม่ได้ใช่ป่ะล่ะ ดังนั้นเราก็จำเป็นต้องเรียนทฤฏษีด้วย

ชีวิต 6 เดือนที่นี่เราแบ่งเป็น 4 เทอม เทอมละ 5 อาทิตย์เทอมหนึ่งก็เรียน 4-5 วิชาครับ
แล้วก็มีเทอมเบรกด้วย เทอมเบรกนี่ก็เหมือนเป็นการให้เราได้ไปเที่ยวพักผ่อนนั่นเอง
มาดูกันว่าผมไปไหนมาบ้างนะ 5555

เราจะมาพูดถึงการเรียนแนวปฏิบัติกันครับ นั่นก็คือ การทำอาหารนั่นเอง ที่นี่เค้าสอนกัน
ตั้งแต่เบื้องต้นเลยครับ การเตรียมอาหาร หั่นผัก ผลไม้ ทำซอส ซุป สลัดต่างๆ จากนั้นก็
Advance ขึ้นไปอีก

บรรยากาศห้องครัว แบ่งเป็น Station ละ 2 คน

เชฟสาธิต จากนั้นเราก็ปฏิบัติตามครับ นี่ล่ะความยากและท้าทาย

Basic Technique ที่เชฟทุกคนต้องมีครับ หั่นแบบสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ครับ 5555

โดยการเรียนรู้ Cooking Method ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Boiling, Simmering, Poaching,
Braising, Stewing, Roasting, Baking คลาสพวกนี้เราจะได้ เป็นคนทำและเลือกเมนู
อาหารต่างๆ มาเสนอเชฟ แล้วก็ลงมือทำเองเลยครับ นอกจากนั้นยังมีคอร์สอาหารอื่นๆ

ให้ลงเรียน เช่น Contemporary Cuisine (อันนี้ไอทีเรียกว่าจัดจานสวยแต่กินไม่อิ่มนั่นล่ะ
ตอนแรกคือไม่ชอบนะ แต่พอมาฝึกงานปุ๊ปรู้เลยว่า เฮ้ยไออันนี้สำคัญจริง ควรเรียนรู้ไว้!)
International Cuisine, A la Carte, Mediterranean Cuisine, Cakes and Creams เป็นต้น
นี่ล่ะครับ 6 เดือน เราจะได้เรียนรู้พวกนี้ทั้งหมด และนำเอามาต่อยอดในอนคตได้จริง

ส่วนของคอร์สทฤษฎี จะเป็นวิชาพวก Wines Paring, Menu Design, Culinary Business
Analysis, Nutrition, Food safety เป็นต้น เห็นว่ามันจะสอดคล้องกับวิชาปฏิบัติและนำมา
ประยุกต์ใช้ได้จริงด้วยครับ

Basic Salad dressing, การตัดมันฝรั่งแบบต่างๆ กับการเสิร์ฟในจานอาหารที่แตกต่างกัน

ชีวิตในสวิตเซอร์แลนด์

อ่าว ทีนี้เรามาดูชีวิตในสวิตเซอร์แลนด์กันบ้างครับ สวิสฯ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่แพง
อันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ แต่ก็อยู่ไม่ยากหรอกครับ ถ้าเราจัดการมันเป็น
เรามาดูกันว่าเป็นยังไง

วันชิวๆก็เน้นเดินเล่นในเมืองบ้างอะไรบ้าง

อากาศดีก็มานั่งเล่นสวนชิวๆ

การเดินทาง

เรามาอยู่นี่เป็นปี ก็ต้องมีบัตรโดยสารรถสิ แน่นอนที่นี่เค้าใช้รถไฟเป็นหลัก
มีรถบัสกะเรือบ้างในบ้างเมืองที่รถไฟไม่ถึง มาอยู่นี่เราใช้บัตร Swiss Pass
สิครับรออะไร ที่เด่นๆ ที่โนใจเด็กไทยคือบัตร Half-Price and After 7

Half-Price บัตรลดราคาค่าโดยสารรถไฟ บัส เรือ และสถานที่ท่องเที่ยว
ที่ใช้รถไฟ 50% อันนี้ทำได้ไม่มีเงื่อนไขอายุ

After 7 บัตรนี้โดนใจไว้โจ๋สิ ใช้เดินทางฟรี หลัง 1 ทุ่มและก่อน 6 โมงเช้า
บัตรนี้จำกัดอายุไม่เกิน 26 ปี

อาหารการกิน มีให้เราเลือกกินมากมายล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นสวิสแท้ อิตาลี
อาหรับ เอเชีย ราคาก็เริ่มต้นที่ 20 ฟรังค์สวิสนั่นเองครับ น้ำตาจะไหล!
(ไม่ต้องคูณเป็นเงินไทยนะครับ 5555)

ส่วนผมต้องที่นี่ครับ อันนี้เป็นอาหารของ Canteen ของโรงเรียน เค้าจะมี
Theme ของอาหารแต่ละวันครับ ที่สำคัญประหยัดเงิน สลัดก็ตักได้ไม่อั้นเลย

เที่ยวกลางคืนล่ะเป็นไง มีสิ แต่ไม่หวือหวาแบบบ้านเราหรอกนะ ผับ บาร์ มีอยู่
ตามเมืองทั่วไป บางที่มีเสียค่าเข้าด้วย แต่อย่างว่ามาแล้ว เราก็ลองเข้าไปเถอะครับ
เป็นประสบการณ์

Princess Club นี่ที่เที่ยวกลางคืนของนักเรียนเลยล่ะ

กิจกรรมฟรีๆ ของโรงเรียนในวันหยุด ที่โรงเรียนเค้าก็มีให้เที่ยวแบบไปฟรีด้วยนะ
แค่เราลงชื่อให้ทันเท่านั้นเอง ก็จะได้ไปเที่ยวในสวิสแบบฟรี และประหยัดเงินได้อีก

งานเที่ยว Mt.Pilatusก็มานะครับ ไปฟรีเลยงานนี้

งานชม Light Show ที่กรุงเบิร์นก็มาฟรีนะ 5555

เทอมเบรก ไปเที่ยวกันสิจะรออะไร! สวิสมีพรมแดนติดหลายประเทศเลย
ทีนี้ล่ะวางแผนกันให้ดีว่าจะไปไหนกันบ้าง บางคนอาจจะเที่ยวในสวิสก่อนก็ได้
หรือจะจองตั๋วโปร ไปเที่ยวประเทศอื่นๆ ในยุโรปก็ได้ ไหนๆ ได้วีซ่าเชงเก้นและ
B-Permit มาละนี่ (แต่อันนี้ไม่เที่ยวฟรีแล้วนะครับ 55555)

Euro Disneyland กับงานปารีสก็มา

Spain ก็ได้แวะไปมานะครับ

แกรนด์ยุโรปตะวันออกก็มานะ ออสเตรีย-เช็ค-ฮังการี

อิตาลีก็มี

ชีวิตฝึกงานกับความเป็นจริง

โรงแรมที่ผมไปฝึกงานตลอด 6 เดือนครับ Hotel Bad Horn

อย่างที่บอกล่ะครับว่าหลักสูตรที่ผมมาเรียน เป็นการเรียน 6 เดือน แล้วก็ฝึกงาน
แบบได้เงินเดือน 6 เดือน จะไปฝึกงานเค้าเลือกกันยังไงล่ะ ง่ายๆ เลยครับ

เราส่ง CV ให้โรงเรียน ทางโรงเรียนเค้าจะสแกนและส่ง CV เราให้โรงแรมหรือ
ร้านอาหารต่างๆ ในสวิสฯ พอเค้าตกลงก็จะนัดเราไปสัมภาษณ์และทดลองงาน

หากเราดูโอเค เค้าก็จะรับเราเข้าทำงานและเซ็นต์สัญญาทำงานนั่นเองครับ
ของผมนี่ได้ไปทำงานที่โรงแรม Hotel Bad Horn นี่ฟังชื่อดูแปลกๆ เนอะ

นี่มันคือภาษาเยอรมัน เมือง Horn, ส่วน Bad = Bath (อ่างน้ำ) เพราะโรงแรมเรา
เป็นโรงแรมติดทะเลสาบ Konstanzนั่นเอง ทะเลสาบที่มีความกว้างคลุม 3 ประเทศ
คือ เยอรมัน สวิส และออสเตรีย

ได้ที่ฝึกงานแล้ว ลุยกันเลย!

เมือง Horn เป็นเมืองเล็กๆ อยู่ริมเลค Konstanz และ อยู่ใกล้เมืองใหญ่อย่าง St.Gallen
ห่างจากซูริคโดยรถไฟ 1:30 ชั่วโมง ส่วนโรงแรมนั้นเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว และเป็น
โรงแรมที่โดดเด่นเรื่องสปาและเรื่องของสุขภาพ

ส่วนตำแหน่งงานของผมที่ได้คือ Kitchen โดยในครัวเค้าจะแบ่งเป็น Section ต่างๆ
ได้แก่ Gardemanger(ครัวเย็น ทำเกี่ยวกับอาหารจานเย็น เช่นสลัดต่างๆ หรือเรียกง่ายๆ

ว่าพวก Appetizer) Entrematier (ฝ่ายเตรียมผัก ซุปต่างๆ และอาหารพวกคาร์โบไฮเดรต)
Saucier (ฝ่ายทำเนื้อ ซอสต่างๆ) Patisserie (ฝ่ายขนมหวานนั่นเอง) และ Bankett
(ฝ่ายจัดเลี้ยง ทำกรุ๊ป)

โดยตลอด 6 เดือนที่อยู่ เชฟจะเป็นคนจัดงานให้เรา โดยเน้นการ Rotate งานนั่นเอง
หมายความว่า 6 เดือนเราจะได้ไปเยือนทั้งหมดเกือบทุกฝ่ายเลยครับ

ถือว่าได้เรียนรู้เยอะเหมือนกันนะครับ (นี่ล่ะครับประสบการณ์และการเรียนรู้การทำงานของเรา
มันอยู่ตรงนี้จริง ทำให้เราเห็น Passion ของตัวเราและเตรียมวางแผนต่อไปในอนาคตได้จริงๆ ครับ)

Uniform ก็จะประมาณนี้ 5555

ส่วนที่พัก ก็เป็นอพาร์ทเม้นของโรงแรมนั่นเอง อาหารโรงแรมก็มีให้กินด้วยนะ วันละสองมื้อ
ส่วนวันหยุดก็สามารถมากินได้เหมือนกัน แต่แค่มากินตามเวลาที่เค้าจัดไว้นั่นเองครับ

โดยค่าที่พักนี้เค้าะหักเราเป็นรายเดือนจากเงินเดือนของเรานะครับ ถูกแสนถูกครับ
ค่าห้องพัก 200 ฟรังค์สวิส ส่วนค่าอาหาร 250 ฟรังค์สวิสครับ ประหยัดเงินไปได้เยอะเลย

และนี่คือที่พักใหม่ของเรา 6 เดือนต่อจากนี้

*** อ้อแต่อย่าลืมนะครับ ว่าการเลือกที่ฝึกงานนี่มันมีผลต่อเงินที่ได้รับสุทธิจริงๆ นะ
อย่างถ้าเราไปอยู่เมืองใหญ่ๆ ค่าที่พัก ค่าอาหารนี่ก็สูงตามไปนะครับ ดังนั้นผมจึงเลือก
ไปอยู่เมืองเล็กๆ ต่างจังหวัดดีกว่าครับ สิ่งที่ผมได้รับคือ เงินเก็บที่มากขึ้น

การทำงานภายในโรงแรมที่เปิดกว้าง ความ Nice ของเพื่อนร่วมงานและคนในพื้นที่
อันนี้ Confirm จริงๆ ครับ รับประกัน!!

เรือสำราญสำหรับล่องเรือทานอาหาร

ทีมงานในครัวครับผม

สำหรับการทำงานนะครับ เราจะทำงาน อาทิตย์ละ 43.5 ชั่วโมง โดยทำ 5 วัน/สัปดาห์
เฉลี่ยก็ประมาณ 8 ชั่วโมงนิดๆ ครับ หากวันไหนทำเกิน ก็ได้ OT ไปก็เท่านั้นเอง

แถม OT นี่เค้าจ่ายให้ 130% จากเงินรายชั่วโมงเลยนะครับ ยิ่งช่วง Summer
นี่ต้องปั๊มชั่วโมงงานเลยล่ะครับ ส่วน Holiday เค้าให้ปีละ 36 วัน อย่างเราทำงาน 6 เดือน
เราก็ได้ 18 วันครับ ทีนี้จะเลือกใช้ช่วงไหนก็ขึ้นอยู่กับการตกลงกับที่ทำงานของเรานะครับ

วันหยุดไปไหนบ้าง เมื่อเราได้ Day off ก็อยู่ที่ Life Style ของแต่ละคนครับว่าจะไปไหน
อย่างผม สมมติว่าได้ Off 2 วัน จะให้วันหนึ่งออกเที่ยว ส่วนอีกวันพักร่างล่ะครับ
เพื่อเตรียมทำงานในวันต่อไป ผมก็จเน้นไปเที่ยวตามเมืองต่างๆ ของสวิส หรือถ้าช่วงไหน
โดน Off ยาวหน่อยก็ไปต่างประเทศได้เลยนะ

คราวนี้ผมลองคำนวนค่าใช้จ่ายคร่าวๆมาให้ครับ
สรุปยอดตลอด 1 ปี

ค่าเรียน (ค่าเรียน+ที่พักและอาหาร 6 เดือน + วีซ่า + ประกันสุขภาพ) 26,000 CHF (936,000 บาท)
ค่าตั๋วเครื่องบิน (แล้วแต่เลือกสายการบิน)                                     35,000 บาท
ค่าใช้จ่ายรายเดือน (แล้วแต่จะใช้ อยู่ที่งบของแต่ละคน)                 60,000 บาท
ยอดรวม                                                                            1,031,000 บาท

รายได้ที่ได้จากการฝึกงาน(เดือนละ 2,300 CHF หักค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าภาษี และค่าใช้จ่ายอื่นๆ)
จำนวน 6 เดือนๆ ละ 1,550 CHF x 6 เดือน                           9,300 CHF (334,800 บาท)

สรุปยอดรวมทั้ง 1,031,000 – 334,800 = 696,200 บาท โดยประมาณ

จะเห็นได้ว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ที่เราเป็นตัวกำหนดครับ แต่สรุปแล้วหนึ่งปี จะใช้
อยู่ประมาณ 7 แสนบาทครับ แต่สิ่งที่ได้รับผมว่าคุ้มกับสิ่งที่เราเสียไปครับ
ไม่ว่าจะเป็น Diploma, เพื่อนต่างชาติ, ประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศ,
ท่องเที่ยวประเทศต่างๆ ในยุโรป และสิ่งสำคัญทำให้เราได้เห็นอะไรใหม่ๆ เยอะขึ้น
ผมว่ายังไงลองให้สวิสเป็นตัวเลือกนึงละกันครับ

ใครอยากไปเรียนทำอาหารแบบน้องไผ่ ไลน์หาเจ๊ @beyondboarders

ขอบคุณข้อมูลจากคุณ สมาชิกหมายเลข 4127369 – pantip.com

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Contact Us

เรื่องล่าสุด

  • เรียน ENG 🇬🇧 เติม Vitamin SEA 🏝 ที่ London School of Commerce เพียง 219 บาท/ชั่วโมง 💰🐻✈️⁣
  • #เรียนภาษาที่อังกฤษ ค่าเรียนถูกมาก! @Burlington เฉลี่ยเพียงสัปดาห์ละ 6,800 บาท!
  • STUDY TOUR IN TOTNES – ไปซัมเมอร์ที่อังกฤษ 2020
  • STUDY TOUR IN LONDON 2020 – ไปซัมเมอร์ที่อังกฤษ 2020
  • British Boarding Taster 2020 – ทดลองเรียนและใช้ชีวิตในโรงเรียนประจำบริทิชขนานแท้ 2020

หมวดหมู่

  • BLOG
    • ENGLISH LANGUAGE
    • Event
    • LIFE IN UK
    • UK TIPS
  • Gallery
  • PROMOTIONS
  • SUMMER CAMP
  • Template
  • Uncategorized

ป้ายกำกับ

AcademicEnglish Adcoteschool Beyond-boarders BeyondBoarders BeyondSpring2019 BeyondStudyTour Beyoundboarders BHMS Boarder BritishBoardingTaster Buckswood BurlingtonSchool Education EducationAdvisor England English EnglishExperience image JaemeOverseas LanguageSchool LifeinUK LSCMalta Lucern Oxford Promotion social StudyinUK Summer Camp Summercourse Switzerland UK UKBoardingSchool UKlife United Kingdom University video ซัมเมอร์อังกฤษ ฝึกภาษา เรียนซัมเมอร์ เรียนต่อต่างประเทศ เรียนภาษาต่างประเทศไม่เกินแสน เรียนภาษาร้องหาเจ๊ เรียนอังกฤษ โปรแกรมซัมเมอร์ ไปอังกฤษคิดถึงเจ๊

ทำไมต้องเจ๊หมีโอเวอร์ซีส์?

เพราะเราบริการด้วยใจ ให้คำตอบ แก้ไขปัญหาด้วยความรู้ ครบเครื่องเรื่องเรียนต่ออังกฤษ ภายใต้คอนเซปต์ 
“ไปอังกฤษ..คิดถึงเจ๊!”

เรื่องล่าสุด

  • เรียน ENG 🇬🇧 เติม Vitamin SEA 🏝 ที่ London School of Commerce เพียง 219 บาท/ชั่วโมง 💰🐻✈️⁣ ตุลาคม 12, 2020
  • #เรียนภาษาที่อังกฤษ ค่าเรียนถูกมาก! @Burlington เฉลี่ยเพียงสัปดาห์ละ 6,800 บาท! พฤศจิกายน 12, 2019
  • STUDY TOUR IN TOTNES – ไปซัมเมอร์ที่อังกฤษ 2020 พฤศจิกายน 12, 2019

Contacts

เจ๊หมีโอเวอร์ซีส์
999/65 Watcharapol Rd., Khlong Thanon, Sai Mai, Bangkok 10220
Office 095 456 9145
explore@jmeoverseas.com
Email
Facebook
YouTube
Instagram

© Copyright 2025 JMEOVERSEAS